วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สิ่งเดียวที่ฉันให้แม่......สิ่งเดียวที่ฉันให้มาตลอดชีวิต

14 มกราคม 2551

ฉันซื้อที่ให้แม่....

ข้อคิดชีวิต... โดย ทะเลจันทร์ เวลา 18:10 น.

ตอนเด็กๆ เคยฝันอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ สนามหญ้ากว้างๆ ไว้วิ่งเล่น เหมือนอย่างในละครทีวีที่ดู

ตอนเรียนชั้นประถม แม่บอกว่าให้ขยันเรียน เรียนให้เก่ง โตขึ้นจะได้มีงานทำ มีเงินเดือนแพงๆ

ตอนเรียนมัธยม ฉันเรียนเก่ง เกรดก็ดี ฉันตั้งใจว่า ถ้ามีเงินมากๆ จะปลูกบ้านใหม่

บอกแม่ว่าจะปลูกบ้าน 5 ชั้น แบ่งกันอยู่คนละชั้น....แม่หัวเราะแล้วบอกว่า ให้ตั้งใจเรียน

ตอนเรียนมหา'ลัย ฉันได้เรียนรู้โลกแห่งความจริง ฉันบอกแม่ว่า

สักวันหนึ่ง เมื่อฉันเรียนจบ มีงานทำ ฉันจะเก็บเงิน ซื้อที่ดินสักแปลง แล้วปลูกบ้านให้สวยๆ ให้พ่อกับแม่และเรา 3 พี่น้องได้ไปอยู่ด้วยกันกับฉัน .....แม่บอกว่า ให้ตั้งใจ แล้วจะสำเร็จ แม่เอาใจช่วย

อาจเป็นได้ว่า ตอนเด็กๆ ฉันไม่ค่อยอยู่บ้าน ทั้งๆที่บ้านที่มีอยู่ก็ไม่เล็กหรือคับแคบ ฉันเลยโหยหาที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง และฝันว่าจะอยู่บ้านอย่างจริงจังสักที

เรียนจบ มีงานทำ เก็บเงินได้หน่อยเดียว ทั้งๆที่ทำงานมาก็หลายปี ความฝันที่จะซื้อที่ดิน ปลูกบ้านหลังงามดูช่างห่างไกล

ฉันเริ่มไม่ใส่ใจและกลายเป็นเป้าหมายที่รางเลือน เพราะลำพังสิ่งที่พ่อกับแม่สร้างไว้ให้ ก็เกินพอที่จะแบ่งให้เราพี่น้องทุกคน ฉันเลยไม่ค่อยกระตือรือร้น

แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันก็ได้ซื้อที่ให้แม่.......แต่ไม่ใช่ที่ดินสำหรับปลูกบ้าน

ฉันไม่เคยคิดว่าจะซื้อ แต่ก็ต้องซื้อ....เพื่อแม่



ฉันหยิบเงินจากพาน เงินเหรียญ ที่มีข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว งา ปนเปกัน

โปรยหว่านลงสู่พื้นดิน เพื่อขอซื้อที่-ทาง จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้แม่ของฉันได้เดินทาง

แม่ต้องเดินทางจากบ้านไปวัด เพื่อปฎิบัติตามพิธีกรรมทางศาสนา

แม่นอนอย่างสงบ....... มีฉันเดินนำ

มือหยิบเงิน.....เท้าเดิน.....น้ำตาไหล.....สมองคิด

นี่หรือ.....คือผืนดินที่ฉันได้ซื้อให้แม่

กล่องไม้สี่เหลี่ยมนั่นหรือ คือบ้าน............ฉันคิดได้ช้าไป ......จริงๆ


หลายคนอาจจะได้อ่านกันไปแล้ว
แต่อ่านอีกครั้งก็ยังติดตรึงในใจเสมอ



จากแจ่มใส

เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น


เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น
คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี

1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม...ไม่เลว 3,120 สัปดาห์

แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับแถวหลังเพื่อรอวันลาโลก

เปล่าเลย ผมไม่ได้กลัวตาย ตรงกันข้าม ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มันน้อยมาก
หากคำนวณในเชิงตัวเลข ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน เพลงอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เคยดู ความรู้สึกในใจมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป

โอ๊ย...กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริงๆ
และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้น คือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี

แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่า บางคนไม่ได้มีเวลาอยู่บนพื้นโลกถึง 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ
อุแม่เจ้า... 2 คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึงสามพันแล้วเหรอเนี่ย

คิดแบบนี้แล้วต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้างๆ
เพราะนี่คือวันเสาร์ที่เราเหลือ...บนพื้นโลก


นี่เรากำลังอ่านอะไรบ้าบอ อยู่เนี่ยคิดมากไร้สาระ ฟุ้งซ่าน(รู้นะว่าพวกเธอคิดอยู่) ....
ไม่เลย นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งนั้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ นี่คือ เรื่องจริงเรื่องหนึ่ง
ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมันไป งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 18 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,235 วัน และผ่านคืน
วันเสาร์มา ร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น...คำนวณเองบ้างซิว้อย!!!

เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลาที่(คาดว่าน่าจะ)เหลืออยู่ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะยังไงกับมันดี


แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า เงินเดือน

บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นเพียงว่า
เพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น แต่กลับปล่อยให้หัวใจตัวเอง
เหลือแต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน

บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวันๆ ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ แน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ...บ้า!!!

และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา' ... ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องนั่งฆ่าเวลากันเลย
บอกตรงๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี


อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ


ลองคิดแบบนี้บ้าง...ใช่แล้ว...เราจะเกิดความเสียดายเพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านอย่างที่เราไม่ได้ทำ


ตายได้ยังไงหากฝันไม่สำเร็จ...ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่างก่อน ที่จะตาย...ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้


เคยสงสัยมั้ย... ทำไมเราถูกกำหนดไม่ให้รู้วันตายของตัวเองเพราะมันจะทำให้เราไม่แยแสทุกสิ่งทุกอย่าง
และตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งในทางดีและทางชั่ว

และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า เอาแบบว่าถ้าตาย
วันพรุ่งนี้ก็จะได้นอนตาหลับ เกิดโชคดีไม่ตายขึ้นมาเราก็จะได้กำไรในการอยู่ต่อเพื่อทำสิ่งดีที่ยังค้างคา


ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า...พรุ่งนี้ชั้นจะตายแล้ว
ทำในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามฝันของเราไปสุดโต่ง...ต้องรีบแล้ว...เดี๋ยวตายยนะ...เตือนแล้วไง

รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย...
เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ)ตายแล้ว

ใช้เวลา(ที่อาจจะ)สุดท้ายที่มีต่อกันไว้ กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างน้อยๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอยให้สัมภาษณ์ยมบาล


คนข้างบ้านเดินหน้าแป้นแล้นมาบอกกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อม
การ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง แต่เมื่อกี๊นี้ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทร.มา
ปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย... แต่กว่าที่คนเป็นแม่จะได้รู้ข่าวร้าย ก็
ปาไป 5 วัน ซองในมือผมกลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีดและทั้งหมดกลายเป็น
แรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ

อ้าว!!! รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ


เดี๋ยวตายซะก่อน...เสียดายแย่!!!

คุณเห็นยังไง


พอได้คำตอบแล้วมาเฉลยกันดีกว่า V


V


V


V


V




คนเห็นตามเข็มแสดงว่า ใช้สมองซีกขวามากกว่าซีกซ้าย
ในทางกลับกัน หากเราเห็นทวนเข็มแสดงว่า
เราใช้สมองซีกซ้ายมากกว่าซีกขวา


สำหรับคนที่ใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า ... คุณมีแนวโน้มที่จะ ...
-ตัดสินใจโดยใช้เหตุผล
-สนใจรายละเอียด
-อยู่บนพื้นฐานของความจริงมากกว่าการคาดการณ์
-มีความสามารถในการเลือกใช้ศัพท์และมีความสามารถทางภาษาศาสตร์
-สนใจในอดีตมากกว่าอนาคต
-มีความสามารถทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
-มีความสามารถในการทำความเข้าใจเรื่องที่มีความซับซ้อนได้เร็ว
-รอบรู้
-ยอมรับผู้คนหรือเรื่องราวใหม่ๆได้ง่าย
-มีระเบียบวินัย
-จดจำชื่อต่างๆได้ดี
-อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง
-วางกลยุทธ์ต่างๆได้ดี
-เน้นผลในทางปฎิบัติ
-ปลอดภัยไว้ก่อน




สำหรับคนใช้สมองซีกขวามากกว่า ... คุณมีแนวโน้มที่จะ

-ให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึก
-ตัดสินใจจากภาพรวมมากกว่ารายละเอียด
-มีจินตนาการสูง
-มีความสามารถในทางตรรกศาสตร์
-สนใจอนาคตมากกว่าอดีต
-สนใจในทางปรัชญาและศาสนา
-เข้าใจประเด็นที่คนอื่นต้องการสื่อสารได้ดี
-ลึกซึ้งต่อเรื่องต่างๆ
-เป็นที่นิยมชมชอบ
-โยงประเด็นและความเกี่ยวเนื่องของเรื่องราวต่างๆได้ดี
-ชอบฝันเฟื่อง
-ประเมินผลกระทบสำหรับทางเลือกต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
-คึกคะนอง ... หรือในบางกรณีมุทะลุ
-เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน


credit : variety.teenee.com


* จขกท. มองเห็นได้ทั้ง2แบบ ยืนยัน!!!

- ถ้าใครมองเป็นตามเข็มก็ลองมองใหม่ตรงเท้าของหุ่นนะ อยู่ๆมันก็กลายเป็นทวนเข็มง่า...

ปล. เขาไว้ฝึกดูว่าเราใช้สมองส่วนไหนในการมองเท่านั้น อย่าซีเรียสไป

ธนาคารที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ธนาคารแห่งแรกในประเทศไทย

ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเพชรบุรี
เดิมเคยเป็นวังมาก่อน ด้านหลังติดคลองแสนแสบ ด้านข้างติดกับศึกษาภัณฑ์กิ่งเพชร





1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

เครดิต : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1126963

49 เหตุที่บอกว่าคุณแก่แล้ว



ขนมโบราณ


คำถาม 49 ข้อ ที่มี หากคุณอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วคุณรู้จักมักคุ้น เคยได้เห็น ได้สัมผัสกะสิ่งที่เรากล่าวขึ้นมาประมาณสัก 30 ข้อ... เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย....เพราะคุณแก่แล้ว (อ่านขำๆ นะคะ อย่าคิดอะไรมาก)


1. เคยไปเมโทร บิ๊กเบล ไดมารูราชดำริ

2. เคยเล่นถ้วยหมุนบนเซนทรัลชิดลม

3. เคยเล่นสวนสนุกบนมาบุญครอง

4. รู้จักแมคโดนัลที่แรกที่โซโก้

5. รู้ว่ามีฟู้ดคอร์ทที่แรกที่มาบุญครอง

6. ยังเรียกสถานที่ต่อไปนี้ว่า เวิลด์เทรด รีเจนท์ ฮิลตัน (โดยที่ไม่ยอมจำว่ามันเปลี่ยนเป็น เซ็นทรัลเวิลด์ โฟร์ซีซั่น ราฟเฟิล ส่วนฮิลตันก็ไปเปิดใหม่ตรงแม่น้ำแล้ว)

7. เคยกินฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้ซึ่งไม่มีแล้ว ทาโก้ ป๊อบอาย เวนดี้ โฮเบอร์เกอร์ เชคกี้ส์พิซซ่า

8. คิดว่า แฮปแลนด์ แดนเนรมิต ถ้าไม่เคยไป เสียชาติเกิดเป็นที่สุด

9. เคยดูหนังแบบที่มันมีราคาตามผังที่นั่ง

10. เคยเล่นไอซ์บนเวิลด์เทรด

11. เคยรู้ว่า ค่าทางด่วนราคา 10 บาทแล้วเปลี่ยนเป็น 15 แล้วเป็น 30 จนถึง 40 ในตอนนี้

12. รู้ว่า ดอนเมืองมีแค่ 1 เทอร์มินัล

13. เคยเติมน้ำมันทีละ 200

14. เคยใช้ floppy disk แผ่นเท่าจาน

15. เคยใช้ คอมไม่มีเมาส์

16. เคยใส่แบรนด์ต่อไปนี้ NEXT, Dr.Martin, Banana Republic (เคยใส่กางเกงยีนส์สีต่างๆ ผู้หญิงเคยผูกโบว์ใหญ่เท่าผ้าสไบ ผู้ชายเคยห้อยกระดิ่งที่รองเท้า)

17. เคยมีเพจ ถ้าจะให้ดีต้องรุ่น advisor

18. รู้ว่า แต่ก่อนมือถือไม่มี 01 เบอร์บ้านไม่มี 02

19. รู้ว่าแต่ก่อนไม่มีชื่อถนนหรือชื่อย่าน แบบนี้...คือ รัชวิภา รัชโยธิน เลียบทางด่วน

20. เคยติด IBC แล้วเปลี่ยนเป็น UTV แล้วมันก็มารวมกันเป็น UBC

21. เคยดู เฮนเบะ บุนบู เมียมนิทานชีวิต แคสเปอร์ผีน้อย บาบ้าปาร์ป้า

22. เคยเรียนดรุณศึกษา หนูมาลีหนูมาลัย หรือมานะมานี

23. สอบเอ็นระบบเก่า วัดใจทีเดียวไม่มีลุ้น

24. ชอบของแถมที่มากับรองเท้าบาจา เช่นโจรสลัดที่อยู่ในถัง

25. คอนเสิร์ตไมเคิลแจ๊กสัน คอนเสิร์ต gun n roses คอนเสิร์ตบอนโจวี่ นีล่ะของชอบ

26. เคยมีเกมกดและพัฒนาเป็นนินเทนโด

27. เคยอ่านนิตยสาร ลลนา สตรีสาร สกุลไทย และรู้ว่าสตรีสารจะมีภาคพิเศษสำหรับเด็กด้วย ซึ่งมีการ์ตูนน่ารักๆ หลายเรื่อง เช่น ต๋อมจอมยุ่ง เจ้าขนฟู คนพิลึก

28. เกิดทันหนังสือเด็กแนวสมัยก่อน เช่น ปลื้ม ไปยาลใหญ่

29. ชอบกินไอติมโฟร์โมสต์

30. เกิดทันโฆษณายุคหวานใส เช่น ขอเสื้อคืนด้วยค่ะ,อุ๊ยส้มหล่น,จะให้เธอน่ารักน้อยกว่านี้หรือให้ผมกล้ามากกว่านี้ดีนะ,รักเจรักช็อคโกบาร์

31. เกิดทันยุคหนังวัยรุ่น สะแด่วแห้ว กลิ้งไว้ก่อน มีดารานำจำพวก มอส เต๋า โมทย์ จอห์น ดีแลนด์ ศรราม นุ๊ก ต๊ะ ฯลฯ

32. ถ้าคุณทันขนม หมากฝรั่งตาแมวดำ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ น้ำเต้าปูปลา

33. ถ้าแก่มากจะทัน พาเลซ โรม ถ้าแก่ไม่มากนักจะทันไวเบรชั่น ชาร์กกี้ ทอรัส ดิสคัฟเวอรี่

34. สามารถบอกชื่อศิลปินค่ายคีตา ได้มากกว่า 3 คน เช่น อ้อม สุนิสา นีโน่ ฝันดีฝันเด่น เอ็มสุรศักดิ์ แจ็กจิล เคดีรอม ยูโฟ ต่อนันทวัฒน์ พงพัฒน์ ยุ้ย ทีสะเกิ๊ต โก้นฤเบศร์

35. นอกจากสามหนุ่มสามมุมแล้วยังทัน ตะกายดาว คนค้นคน นางฟ้าสีรุ้ง

36. รู้ว่าจะมีการฺ์ตูนโผล่มาเวลา ช่องทีวีมีปัญหา เช่น นกหัวขวาน

37. เคยอยู่ในช่วง ดอลล่าร์ละ 25 บาท ปอนด์ละ 40 (โอ้แม่เจ้า เคยมีในสมัยนั้นจริงๆ)

38. เกิดทัน การดูเลเซอร์ มีร้านให้เช่าดูที่สยามด้วย

39. เกิดทันยุคที่นักร้องแกรมมี่ต้องมีเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่ในอัลบั้ม

40. รู้ว่าสยามเซ็นเตอร์และชิดลม ไฟไหม้ในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ช่วงนั้นไม่มีห้างจะเดิน

41. คนข่าวสมัยนั้นที่ดัง คือ สมเกียรติ์ อรุณโรจน์ วิทวัส

42. ยุทธการขยับเหงือก เทปแรกๆ มีเสนาปัญญา เสนากิ๊ก และก็มีเสนาโค้ก อรุณ ติ๊กกลิ่นสี แหม่มสุริวิภา ส่วนโน้ตอุดม หอย ส่วนวิทย์มาทีหลัง

43. เคยรู้ว่าถ้าท่านใดสามารถตอบได้ว่า วันนี้พี่เบิร์ดร้องเพลงกี่เพลง/ ติ๊นาเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดกี่ชุด
จะได้รับนาฬิกาคาเรร่าสำหรับสุภาพบุรุษ 1 เรือนและสุภาพสตรี 1 เรือน
สำหรับเงินค่าเข้าประตูในวันนี้ จะนำไปซื้อตู้ยาพร้อมเครื่องเวชภัณฑ์ให้โรงเรียนวัดไผ่อีเห็น

44. ชอบพูดว่าตัวเองยังไม่แก่ แต่ที่แท้เวลาได้ยินเพลงสมัยก่อนจำพวกเจ นูโว ยูเอชที จะยิ้มแป้น
แถมยังชอบไปดูคอนเสิร์ตย้อนยุคทั้งหลาย และชอบไปที่เที่ยวที่เปิดเพลงเก่า

45. เคยคิดว่า โบ-จ๊อยซ์โป๊มาก (สมัยนี้เจอเจอเกิร์ลลี่เบอรี่เข้าไป หึ หึ)

46. ยังไม่มี airport tax

47. ฮิตเสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ หรือพอดีๆ ไม่ใช่รัดติ้วเป็นแหนมมัดเหมือนสมัยนี้

48. รู้ว่าซูกัส ทรีบอล์ เคยห่อเป็นแบบท็อฟฟี่ คอร์นพัฟเป็นถาดดึงออกมา ป๊อกกี้แกะกล่องจากด้านบนไม่ใช่ตรงกลางแบบนี้ และยังมี มั้นมัน ทวิสตี้ จิ๊กกะดี้ ริงโก้ กาก้า

49. เคยดูเขาทราย เขาค้อ สามารถ ซึ่งเวลาต่อยแข่ง ถนนโล่งไปหมดไม่มีคนออกจากบ้าน